เริ่มต้นทำบัญชี ในธุรกิจควรรู้อะไรก่อน?
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนเลยว่า การทำบัญชีเป็นกระบวนการที่สำคัญ และไม่ควรขาดในธุรกิจ หรือ กิจกรรมทางการเงินใด ๆ การทำบัญชีมีประโยชน์อย่างมากในการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงิน ช่วยให้รู้ถึงสถานะการเงินของธุรกิจ ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ และตรวจสอบความถูกต้องในการเก็บรักษาบัญชีภายในองค์กร สามารถติดตามได้ที่บทความนี้เลย
เริ่มต้นทำบัญชี ในธุรกิจ ก่อนจะสายเกินไป
การทำบัญชี ในธุรกิจเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ กระบวนการทำบัญชี ประกอบด้วย การบันทึกธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นในธุรกิจ ในลักษณะของรายรับ และรายจ่าย และการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และความสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การทำบัญชีทำให้ธุรกิจสามารถติดตามประวัติการเงิน ประกอบการวิเคราะห์ และสรุปผลการดำเนินกิจการได้อย่างเป็นระบบ และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจธุรกิจ
การทำบัญชีมีหลายระบบ ในการเก็บข้อมูล ในปัจจุบันมักใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อทำบัญชี เช่น ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ (Computerized Accounting System) ที่ช่วยทำให้กระบวนการทำบัญชีมีความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น
ในการทำบัญชีควรใส่ใจในการบันทึกข้อมูลอย่างถูกต้อง และครบถ้วน เนื่องจากข้อมูลทางการเงินมีความสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการธุรกิจ การทำบัญชีที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลกระทบให้เกิดความผิดพลาด ในการตัดสินใจธุรกิจ การตรวจสอบข้อมูลเป็นอย่างใกล้ชิดเพื่อความถูกต้อง และเสถียรภาพของบัญชีภายในองค์กร เพื่อความสำเร็จในธุรกิจ และการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ การทำบัญชี คือ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และควรให้ความสำคัญในการดำเนินกิจการ และประสบความสำเร็จในอนาคต
คิดจะ ' เริ่มต้นทำบัญชี ' ต้องมีหลักฐานทางการเงินที่ครบถ้วน
เพื่อความถูกต้องในการทำบัญชี ต้องมีหลักฐานทางการเงินที่ครบถ้วน และถูกต้อง เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบสำคัญจ่าย และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กรณีที่หากคุณยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัท นั้นสามารถอ่านได้ที่ บทความ How to จดทะเบียนบริษัท แบบง่ายๆ ได้เลย
สร้างงบการเงิน ขั้นตอนสำคัญในการทำบัญชี
งบการเงิน (Financial Statement) เป็นเอกสารทางการเงินที่สร้างขึ้น เพื่อแสดงผลสถานะการเงินขององค์กรในระยะเวลาที่กำหนด งบการเงินมักใช้ในการรายงานสถานะทางการเงินของธุรกิจต่อเจ้าหนี้ ลูกค้า นักลงทุน หน่วยงานราชการ และคนที่สนใจในธุรกิจนั้นๆ
สำหรับธุรกิจที่ทำงบการเงิน จะประกอบด้วย 3 งบ คือ
-
งบทดลอง (Trial Balance) เป็นการรวบรวมข้อมูลทางการเงินที่บันทึกไว้ในระบบบัญชี ซึ่งระบุจำนวนเงินในสินทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ รายจ่าย และหนี้สินที่ต้องชำระในระยะเวลาที่กำหนด
-
งบกำไรขาดทุน (Income Statement) เป็นการสรุปรายได้ และรายจ่ายที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด และแสดงผลกำไร หรือ ขาดทุนของธุรกิจในช่วงนั้นๆ
-
งบสภาพทางการเงิน (Balance Sheet) เป็นการสรุปสถานะทางการเงินของธุรกิจในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งระบุสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนของธุรกิจที่มีในช่วงนั้นๆ
การสร้างงบการเงินนั้น ต้องปฏิบัติตามหลักสูตรบัญชีที่ถูกต้อง และเป็นมาตรฐาน โดยผู้ที่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญทางการเงิน จะเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างงบการเงินที่มีความถูกต้อง และเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยในกระบวนการสร้างงบการเงินให้กับธุรกิจ เพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการทำงานด้วย
การตรวจสอบบัญชี
ตรวจสอบบัญชี (Accounting Audit) เป็นกระบวนการที่ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน (auditor) ทำการตรวจสอบความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางการเงินในบัญชีขององค์กร การตรวจสอบบัญชี ช่วยให้สามารถตรวจสอบว่าข้อมูลทางการเงินที่ระบุในรายงานบัญชีนั้นเป็นอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับกฎหมาย และมีความน่าเชื่อถือ
ส่วนใหญ่การตรวจสอบบัญชี ทำโดยผู้ตรวจสอบภายนอกที่ไม่มีความเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจขององค์กร การตรวจสอบนี้มีประโยชน์ต่อองค์กร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน ธนาคาร หน่วยงานราชการ และคู่ค้า
ผู้ตรวจสอบบัญชีจะทำการทดสอบ หรือ ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินเพื่อให้มั่นใจว่า
- การบันทึกธุรกรรมในบัญชีเป็นถูกต้อง และครบถ้วน
- ข้อมูลทางการเงินเป็นอย่างเชื่อถือ และมีความน่าเชื่อถือ
- รายงานทางการเงินเป็นอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับกฎหมาย และหลักสุจริตการบัญชี
- การดำเนินการทางการเงินมีความเป็นไปตามแผน และนโยบายทางการเงิน
การตรวจสอบบัญชี สามารถทำการทั้งในรูปแบบตรวจสอบภายนอก (External Audit) ซึ่งจะดำเนินการโดยผู้ตรวจสอบภายนอกที่ไม่มีความเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ และรูปแบบตรวจสอบภายใน (Internal Audit) ซึ่งจะดำเนินการโดยคนภายในองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง และความเป็นเลิศของการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงินในองค์กร เพื่อให้สามารถเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงินขององค์กร
หาความรู้เรื่อง ภาษี เกี่ยวกับ ทำบัญชี
การจดทะเบียนบริษัท แบบทะเบียนพาณิชย์ หรือ บุคคลธรรมดา
เราต้องมีความรู้เรื่อง ภาษี และ กฎหมายภาษี เพราะเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทำบัญชีของธุรกิจ ซึ่งมีบทบาททางการเงินอย่างยิ่ง สำหรับองค์กร และธุรกิจ ในการรับรู้ถึงประมาณการรายได้ และค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบความถูกต้อง และความเป็นอยู่ของข้อมูลทางการเงิน ในการทำบัญชีด้วย
-
ภาษีเงินได้บริษัท หมายถึงภาษีที่องค์กรต้องชำระตามกฎหมายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิที่องค์กรทำได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย และค่าใช้สินค้าหรือบริการต่างๆ
-
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นภาษีที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายสินค้า หรือบริการ อยู่ในรูปของราคาสินค้า หรือบริการที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่กำหนดตามกฎหมาย ซึ่งองค์กรต้องเก็บภาษีนี้จากลูกค้า และส่งเงินให้กับหน่วยงานภาษี
-
ภาษีอื่นๆ อาจมีภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น ภาษีธุรกิจ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งองค์กรต้องชำระตามกฎหมาย
-
การรายงานภาษี องค์กรต้องทำการรายงานสถานะการเงินที่เกี่ยวข้องกับภาษีในระยะเวลาที่กำหนด โดยรายงานนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดภาษีที่ต้องชำระ การคำนวณภาษี และการชำระเงินให้กับหน่วยงานภาษี
-
การวางแผนภาษี การวางแผนภาษี เป็นกระบวนการที่สำคัญในการทำบัญชี เพื่อให้องค์กรสามารถลดภาระภาษีให้เท่าที่เป็นไปได้ และสามารถนำเงินที่ประหยัดไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจ
ภาษี เป็นส่วนสำคัญในการทำบัญชี และการเกิดขึ้นของภาษีเกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้นต้องการความรู้ และความเข้าใจในกฎหมาย และเทคนิคทางการเงิน เพื่อให้การทำบัญชีเป็นไปอย่างถูกต้อง และประสบความสำเร็จในธุรกิจ
ไม่อยากยุ่งยากเรื่องเอกสาร ต้องการ "จดทะเบียนบริษัท" ปรึกษาเรา สำนักงานพีรวิชญ์ ทำบัญชี สุมทรปราการ
นอกจากนี้ ควรมีการสร้างรายงานทางการเงินที่มีประโยชน์ และทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำ รายงานทางการเงินจะช่วยให้ผู้บริหารธุรกิจเข้าใจเรื่องราวทางการเงินของธุรกิจ และช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจในอนาคต และฝากติดตามบทความดีๆกับเรา สำนักงานพีรวิชญ์ การบัญชี
สุดท้าย การทำบัญชีไม่ใช่เพียงแค่กระบวนการที่ต้องทำ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจเจริญเติบโต และเป็นอย่างมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงินให้กับธุรกิจ